ราคา MG4 ELECTRIC ปี 2024
MG4 ELECTRIC ปี 2024 รุ่นผลิตไทย 3 รุ่น เสริม 1 รุ่นท็อปนำเข้า
- MG4 ELECTRIC – STANDARD RANGE 49 kWh รุ่น D ราคา 709,900 บาท
- MG4 ELECTRIC – STANDARD RANGE 49 kWh รุ่น X ราคา 809,900 บาท
- MG4 ELECTRIC – LONG RANGE 64 kWh รุ่น V ราคา 889,900 บาท
- MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER AWD 64 kWh ราคา 1,119,900 บาท (นำเข้าจากจีน)
MG4 ELECTRIC ปี 2024 รุ่นผลิตไทย มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี
- สีส้ม (Fizzy Orange)
- สีขาว (Arctic White)
- สีเทา (Andes Grey)
- สีดำ (Black Knight)
- สีฟ้า (Brighton Blue) (เฉพาะรุ่น X, รุ่น V)
การจับคู่ตกแต่ง MG4 ELECTRIC ปี 2024
- รุ่น D ภายในสีดำ
- รุ่น X และ V ภายในสีทูโทนเทา-ดำ พร้อมหลังคาแบบทูโทน (Blacktop)
- รุ่น XPOWER AWD ภายในสีดำ พร้อมหลังคาแบบทูโทน (Blacktop) กับสีตัวถังเดียว สีเขียว (Wild Hunter Green)
ดูเพิ่มเติม => ราคา NETA V-II ปี 2024 รุ่นผลิตไทย
MG4 ELECTRIC เป็นรถแฮทช์แบ็คที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ ICON ที่เป็นตัวแทนของความเป็นต้นแบบและมาตรฐานใหม่ของรถอีวีที่มอบความสนุกและความพอใจในการขับขี่
ในปี 2024, MG4 ELECTRIC รุ่น STANDARD RANGE และ LONG RANGE ออกจากสายการผลิตในประเทศไทย โดยรุ่น STANDARD RANGE ได้เพิ่มเติมฟังก์ชันและฟีเจอร์ และรุ่น LONG RANGE เพิ่มระยะทางการขับขี่ได้ไกลมากยิ่งกว่า ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 64 kWh และการเพิ่มรุ่น XPOWER EV Hot Hatch ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่มีพลังสูงสุดถึง 435 แรงม้า
MG4 ELECTRIC ในปี 2024 ได้ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM ที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าเฉพาะ และสามารถนำไปปรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้หลากหลายเซกเมนต์และขนาดตั้งแต่รถแฮทช์แบ็ค ซีดาน ไปจนถึงรถ SUV รวมทั้งรองรับแบตเตอรี่หลากหลายความจุ
MG4 ELECTRIC ปี 2024 มีอะไรใหม่
MG4 ELECTRIC ปี 2024 การออกแบบตัวรถใหม่
- ระบบไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS
- ไฟท้าย LED ที่มีลาย CGYNUS SYMBOL DECORATIVE LIGHT
- หลังคาแบบทูโทนพร้อมสปอยเลอร์หลังแบบ TWIN ARROW WING
- ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วพร้อม AERO WHEEL COVER สำหรับรุ่น STANDARD RANGE
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อม AERO WHEEL COVER สำหรับรุ่น LONG RANGE และ XPOWER ให้มีลุคที
- สวยงามและดุดันตามมาตรฐานสูงของรถยนต์ทั้งหมด
MG4 ELECTRIC ปี 2024 ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่
- หน้าจอสีระบบสัมผัสได้รับการปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นจาก 10.25 นิ้ว เป็นขนาด 12 นิ้ว เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและประสบการณ์การขับขี่
- เพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยการเพิ่มช่องวางแก้วด้านข้างประตูเพื่อการเก็บของที่สะดวกและสไตล์
- เพิ่มราวมือจับสำหรับผู้โดยสาร 3 ตำแหน่งเพื่อเพิ่มความสบายและความปลอดภัยในการเดินทาง
- ในรุ่น XPOWER มีการใช้หุ้มเบาะที่ผสมระหว่างหนังสังเคราะห์และหนังอัลคันทาร่า (Alcantara) เพื่อเสริมความหรูหราและสมบูรณ์ในดีไซน์ของรถ
เทคนิคการขับขี่ของ MG4 ELECTRIC ปี 2024
ในรุ่น MG4 ELECTRIC ปี 2024 มีรายละเอียดเทคนิคการขับขี่ต่าง ๆ ของแต่ละรุ่นดังนี้:
1. รุ่น STANDARD
- มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
- ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE)
- ขนาดความจุแบตเตอรี่ 49 kWh (LFP)
- สามารถวิ่งได้ระยะทาง 423 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
2. รุ่น LONG-RANGE
- มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
- ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE)
- ขนาดความจุแบตเตอรี่ 64 kWh (NMC)
- สามารถวิ่งได้ระยะทาง 540 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
3. รุ่น XPOWER
- มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้พลังสูงสุด 435 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร
- อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.8 วินาที
- ขนาดความจุแบตเตอรี่ 64 kWh (NMC)
- สามารถวิ่งได้ระยะทาง 480 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
- ระบบ One Pedal สำหรับควบคุมการเบรกและการเร่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่
ทั้งนี้รุ่น MG4 ELECTRIC ปี 2024 ยังมีระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่มีระดับการเลือก 4 ระดับ และโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ เพื่อให้ผู้ขับสามารถเลือกโหมดการขับขี่ตามความต้องการและเงื่อนไขของถนนได้เหมาะสม