ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ไหนรุนแรงที่สุด วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์

ไข้หวัดใหญ่คืออะไร

ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เรียกว่าไวรัสไข้หวัด (Influenza virus) โดยโรคนี้มักจะแพร่กระจายได้ง่ายผ่านทางการหายใจ เช่น การไอ การจาม หรือการพูดคุยกับคนที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัด
อาการของไข้หวัดใหญ่มักจะเริ่มต้นด้วยอาการไข้สูง ร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล น้ำตาไหล ปวดเมื่อยเนื่องจากการติดเชื้อทางเส้นหายใจ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และอาจมีอาการไอร่วมด้วย
ส่วนหนึ่งของผู้ที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดอาจมีภาวะแทรกซ้อนเป็นโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ ได้ เช่น หลอดลมอักเสบ หลอดลมอักเสบ เนื้อจมูกอักเสบ หรือปอดอักเสบ
การระบาดของไข้หวัดใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว และสามารถระบาดได้ทั้งในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงเช่นเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ และกลุ่มคนทั่วไปด้วย

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ไหนรุนแรงที่สุด

ในปัจจุบันมีสองสายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่ที่มีการระบาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง คือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และ B ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างมากในเรื่องของรุนแรงของอาการ ดังนี้

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A เป็นสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงมากที่สุด โดยอาการที่พบบ่อยคือไข้สูง ปวดหัว ตัวร้อน ไอ จาม มีน้ำมูก และปวดเมื่อยตามตัว แต่อาการจะไม่รุนแรงถึงขั้นที่ต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล และสามารถรักษาได้ด้วยการพักผ่อนให้ร่างกายฟื้นตัวเอง และการรับประทานยาแก้ปวด

ดูละเอียดเพิ่มเติม ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A: อาการ การตรวจ และการรักษา

ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B

สำหรับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B มีมความอันตรายรุนแรงเช่นกัน โดยอาการที่พบบ่อยคือไข้สูง ปวดหัว ตัวร้อน ไอ จาม มีน้ำมูก และปวดเมื่อยตามตัว แต่อาการจะรุนแรงมากขึ้น และอาจมีอาการแทรกซ้อนเช่น ปอดอักเสบ หูอักเสบ หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนทางสมองได้ ซึ่งจำเป็นต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล และอาจต้องใช้ยาและการรักษาเพิ่มเติม

ดูละเอียดเพิ่มเติม ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B โรคที่คุณต้องรู้จัก

วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่

เนื่องจากไม่มีวิธีรักษาไข้หวัดใหญ่ที่แน่นอน การป้องกันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ คุณควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้

1. รักษาระยะห่างจากผู้ป่วย

   เมื่อมีคนใกล้ชิดที่มีอาการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ คุณควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือการใกล้ชิดกับเขา และควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

2. ล้างมือบ่อยๆ

   การล้างมือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ คุณควรล้างมือบ่อยๆ โดยใช้สบู่และน้ำ หรือใช้เจลล้างมือที่มีแอลกอฮอล์

3. ไม่สัมผัสตา จมูก หรือปาก

   เมื่อมีการสัมผัสกับวัตถุที่มีเชื้อไวรัสอยู่ คุณควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสตา จมูก หรือปาก เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย

4. หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ร่วมกัน

   การใช้ของใช้ร่วมกัน เช่น แก้ว ช้อน หรือผ้าเช็ดมือ อาจทำให้เชื้อไวรัสแพร่กระจายได้ คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ร่วมกันหรือถ้าจำเป็นต้องใช้ ควรล้างให้สะอาดก่อนและหลังใช้



5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

   การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารที่มีวิตามินซี จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และช่วยป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้

สรุป

ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อที่มีการระบาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีสองสายพันธุ์ที่มีการระบาดอย่างหนักคือสายพันธุ์ A และ B ซึ่งมีความรุนแรงของอาการแตกต่างกัน ในการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ คุณควรรักษาระยะห่างจากผู้ป่วย ล้างมือบ่อยๆ ไม่สัมผัสตา จมูก หรือปาก หลีกเลี่ยงการใช้ของใช้ร่วมกัน และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย หากมีอาการของไข้หวัดใหญ่